หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับที่มาของชื่อ shopsanova. com แล้ว วันนี้ผมจะแนะนำให้รู้จักคำว่า comparison shopping กันครับ
ถ้าจะแปลกันตรงๆตัวเลย มันก็จะแปลว่า "การซื้อสินค้าด้วยการเปรียบเทียบ" ถ้าอธิบายกันแค่นี้ คงมีหลายคนชูมือถามด้วยความสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่ เพื่อให้เข้าใจง่าย ผมขออธิบายด้วยการยกตัวอย่างประกอบนะครับ
สมมติว่า คุณจะซื้อมือถือสักเครื่องหนึ่ง สิ่งที่คุณจะทำอย่างไรบ้างครับ อย่างแรก ก็ไปเดินที่มาบุญครอง หยิบใบโบรชัวร์ของ jaymart, MFA, i-mobile มาดู เสร็จแล้วก็นั่งไล่อ่านโบรชัวรทุกใบเลย T_T หลังจากนัน ก็มาคิดว่า "จะซื้อรุ่นไหนดีหว่า" หลายๆ คนก็บอกว่า ก็เอารุ่นที่ Spec ดีสุดสิ แต่ในชีวิตจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้นสิครับ มือถือรุ่นนี้มีกล้อง แต่ไม่มี MP3 แต่อีกรุ่นนึง มี MP3 แต่ดันไม่มีกล้อง ถ้าจะเอารุ่นที่มีทั้งกล้องทั้ง MP3 มันนน....ก็ดันมาเกินงบซะนี่ แล้วจะทำอย่างไง เราก็ต้องมานั่งเปรียบเทียบ Spec ของรุ่นที่ราคาไม่เกินงบกันทุกรุ่นเลย T_T ว่ารุ่นไหนใกล้เคียงกับความต้องการเรามากทีุ่สุด อาจจะต้องกลับมาเลือกต่อที่บ้าน เพราะ ร้านมันปิดไปแล้ว ก็ยังเลือกไม่จบซะที วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ตกลงได้ละว่า "จะเอาุรุ่นนี้แหละ" แล้วจะทำไงต่อ?? ก็ต้องไปเดินสำรวจราคาอีกรอบครับ ว่าร้านไหนขายถูกสุด เดินกันให้เมื่อยขากันไปข้างหนึ่งเลย จะเห็นได้ว่า กว่าจะได้มือถือสักเครื่องไม่ใช่เรื่องหมูๆ นะครับเนี้ย
ปัญหาต่างๆ ทำให้เกิดแนวคิดเรื่อง comparison shopping ครับ คือ เปรียบเทียบคุณสมบัติของสินค้า ให้เห็นกันชัดๆ กันแบบรุ่นต่อรุ่น และเปรียบเทียบราคาของร้านค้าต่างๆ ที่ขายสินค้าตัวนี้ ... เอ๊ะ อย่างงี้ก็ง่ายสิ แทนที่จะไปเดินเก็บโบรชัวรของร้านค้าต่างๆ เราก็ใช้ shopsanova เนี้ยแหละ เปรียบเทียบให้เลยว่ารุ่นไหน spec ตรงใจที่สุด และแทนที่จะต้องไปชะเง้อดูราคาว่าร้านไหนถูกสุด shopsanova ก็จัดการให้ได้อีกเหมือนกันหละครับ เห็นไหมครับ comparison shopping ช่วยให้การเลือกซื้อของง่ายขึ้นได้ยังไง
เจอกันครั้งหน้านะครับ
